สถิติผู้เข้าเยี่ยมชมเว็บไซต์

 

   ขั้นตอนการพัฒนาโปรแกรม
         ในการพัฒนาโปรแกรมมีขั้นตอนหลัก  5 ขั้นตอน วิเคราะห์ปัญหา วางแผนและออกแบบ เขียนโปรแกรม ทดสอบโปรแกรม จัดทำคู่มือ ซึ่งไม่ว่าจะทำการพัฒนาโปรแกรมครั้งใดจะต้องปฏิบัติตามขั้นตอนเหล่านี้

 

โจทย์ :  จงเขียนโปรแกรมรับค่าเลขจำนวนเต็ม  2  จำนวนและหาผลบวกของเลขทั้ง 2 จำนวนนั้น

 

     1. วิเคราะห์ปัญหา (Analysis)
         ขั้นตอนนี้ถือว่าเป็นขั้นตอนที่สำคัญที่สุด  ผู้เขียนโปรแกรมต้องวิเคราะห์ปัญหาให้ออกว่าจะต้องทำการเขียนโปรแกรมเพื่อ

แก้ปัญหาอะไร  เพราะหากวิเคราะห์หรือมองปัญหาผิดแล้ว  จะทำให้เขียนโปรแกรมได้ผลลัพธ์ออกมาผิดไปจากสิ่งที่ต้องการด้วย และวิเคราะห์ข้อมูลที่จะนำเข้ามาใช้ในโปรแกรมมีอะไรบ้าง  จากโจทย์ข้างต้น สามารถแตกปัญหาได้เป็น 2 ส่วน คือ
      -  ต้องรับข้อมูลเลขจำนวนเต็ม  2  ตัวเข้ามาในโปรแกรม
 วิเคราะห์           กำหนดให้  x  เก็บเลขจำนวนเต็มที่ 1
                      กำหนดให้  y  เก็บเลขจำนวนเต็มที่ 2
      -  เลขจำนวนเต็มที่ 1 +  เลขจำนวนเต็มที่ 2  มีค่าเท่ากับเท่าไร
 วิเคราะห์           กำหนดให้  sum  เก็บค่าผลบวกของเลขจำนวนเต็มทั้ง 2 จำนวน 
     นั่นคือ  sum = x + y

 

    2. วางแผนและออกแบบ  (Planning & Design)
        การวางแผน  คือ  การนำปัญหาที่วิเคราะห์ได้จากขั้นตอนที่ 1 มาวางแผนอย่างเป็นขั้นตอนว่าจะต้องเขียนโปรแกรมเพื่อแก้ปัญหาอย่างไร การวางแผนอย่างเป็น ขั้นตอนนี้ เรียกว่า  อัลกอริทึม (Algorithm) ซึ่งอัลกอริทึมแบ่งออกเป็น 2 รูปแบบ คือ
     1. ซูโดโค้ด (Pseudo code) คือ การเขียนอัลกอริทึมโดยใช้ประโยคภาษาอังกฤษที่สื่อความหมายง่าย ๆ สามารถอ่าน
แล้วเข้าใจได้โดยทันที  จากโจทย์สามารถเขียนซูโดโค้ดได้ดังนี้

 

     จะเห็นว่า  เมื่ออ่านซูโดโค้ดแล้วสามารถเข้าใจได้ทันทีว่าขั้นตอนการเขียนโปรแกรมเป็นอย่างไร

 

                         START
                         READ X
                         READ Y
                         COMPUTE SUM = X+Y
                         PRINT SUM
                         STOP

  

      2. โฟลวชาร์ต (Flowchart)  คือการเขียนอัลกอริทึมโดยใช้สัญลักษณ์รูปภาพเป็นตัวสื่อความหมายจากโจทย์ สามารถเขียนโฟลวชาร์ตได้ดังนี้

 

 

 

 

    3.  เขียนโปรแกรม (Coding)
         เป็นการนำอัลกอริทึมจากขั้นตอนที่ 2 มาเขียนโปรแกรมให้ถูกต้องตามหลักไวยากรณ์ (syntax)  ของภาษาซี  จากโจทย์สามารถเขียนโปรแกรมได้ดังนี้
      ตัวอย่างแสดง  ซอร์สโค้ด
1:

#include <stdio.h>

2:

#include <conio.h>

3:

main()

4:

{

5:

 

int x,y,sum;

6:

 

printf(“Value of x is : “);

7:

 

scanf(“%d”,&x);

8:

 

printf(“Value of y is : “);

9:

 

scanf(“%d”,&y);

10:

 

sum= x+y;

11:

 

printf(“Sum of %d+%d is %d \n”,x,y,sum);

12:

 

getch();

13:

}

 

               

    หากนำโปรแกรม มาพิจารณา จะพบว่าการเขียนโปรแกรมมีขั้นตอนเป็นไปตามขั้นตอนของอัลกอริทึมที่ได้วิเคราะห์ขึ้นทุกประการ

 

 

 

   4.  ทดสอบโปรแกรม
       เป็นการนำผลลัพธ์จากขั้นตอนที่ 3 มาทำการรัน  จากนั้นทดสอบโดยป้อนค่า x และ y  เข้าไปในโปรแกรม  และตรวจสอบ

ผลลัพธ์ที่ได้ว่าถูกต้องหรือไม่  โดยทดสอบหลาย ๆ ครั้ง  หากผลลัพธ์ที่ได้ถูกต้องแสดงว่าโปรแกรมที่เขียนขึ้นถูกต้องแล้ว  แต่หาก

ผลลัพธ์ถูกบ้างผิดบ้างหรือผิดทุกครั้งแสดงว่าโปรแกรมที่เขียนขึ้นผิดพลาด  ผู้เขียนต้องกลับไปตรวจสอบโปรแกรม

 

    จากโจทย์สามารถทดสอบโปรแกรมได้ดังนี้

ผลลัพธ์ของโปรแกรม

 

รันครั้งที่ 1


Value of x is : 5

Value of y is : 7

Sum of 5 + 7 is 12

 

รันครั้งที่ 2


Value of x is : 50

Value of y is : 30

Sum of 50 + 30 is 80

 

   5.  จัดทำคู่มือ (Documentation)
      จุดประสงค์ที่สำคัญของการทำคู่มือ  คือ  ช่วยให้ผู้ที่ศึกษาซอร์สโค้ดของโปรแกรม (source code) ได้ง่ายขึ้น  จะเป็น

ประโยชน์มากสำหรับการพัฒนาโปรแกรมในอนาคต  เพราะจะช่วยให้ศึกษา  ซอร์สโค้ดได้ง่ายและรวดเร็วขึ้น  การจัดทำคู่มือ

ไม่มีกฎเกณฑ์ระบุไว้แน่นอน  แต่ผู้เขียนโปรแกรมควรจัดทำคู่มือให้มีรายละเอียดมากที่สุด จากโจทย์ สามารถจัดทำคู่มือได้ดังนี้

 

ชื่อโปรแกรม

หาค่าผลบวกของเลขจำนวนเต็ม  2  จำนวน

ตัวแปรที่ใช้

x  เก็บค่าจำนวนเต็มตัวที่ 1

 

y  เก็บค่าจำนวนเต็มตัวที่ 2

 

sum  เก็บค่าผลบวกของตัวเลขจำนวนเต็มทั้ง 2 จำนวน

ชนิดของข้อมูล

x,y,sum  เป็นข้อมูลชนิดเลขจำนวนเต็ม (integer)

วิธีการแก้ปัญหา

ใช้สมการ  sum = x + y